SHARES:
มาถึงในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงขึ้น “กลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง” จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่างที่ทราบกันดีว่าแบรนด์หรือบริษัทต่างๆ พยามสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ เพื่อครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาด รวมถึงมีการลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ

ซึ่งปัจจุบันด้วยความที่แบรนด์หรือบริษัทส่วนใหญ่ มีหลายภาคส่วนที่ต้องดูแลและควบคุม จึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ซึ่งการเข้าถึง Customer Journey และความคิดเห็นที่แท้จริงจากผู้บริโภค กลับมีเพียงกลุ่มผู้ค้าส่ง ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ค้าปลีกเท่านั้น ที่เข้าถึงความเห็นจริงจากการใกล้ชิดกับผู้บริโภคโดยตรง

ดังนั้นมองกลับมาที่การสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญ นั้นคือการศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้อ และความใส่ใจในผู้บริโภค เป็นอันดับแรก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่พฤติกรรมของผู้โภคค่อยๆเปลี่ยนไป จากเดิมที่เลือกซื้อสินค้าและบริการ จากราคา รสนิยม หรือความสะดวกเป็นหลัก กลับมุ่งสู่เรื่องราวการเลือกซื้อจากคุณค่าของแบรนด์ที่นำเสนอมากขึ้น

แม้กระทั่งเรื่องการแสดงออกในความรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์ หรือการให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้าที่ลดการสร้างผลกระทบต่อสังคม อย่างที่เราเห็นจากกระแสที่ผ่านมา ที่หลากหลายแบรนด์เริ่มออกผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม เริ่มแสดงออกในการให้ความตระหนักต่อสังคม เป็นต้น

นั่นหมายความว่า การมุ่งพัฒนาเพียงสินค้าและบริการ อาจไม่เพียงพอที่จะซื้อใจผู้บริโภคในยุคนี้ได้ ต้องมุ่งสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และรู้ในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการควบคู่กัน

จากสถิติพบว่าผู้บริโภคกว่า 50% เลือกให้ความสำคัญกับคุณค่าของแบรนด์ และกว่า 60% ที่เต็มใจเลือกซื้อแบรนด์ที่ให้ความสำคัญและมีความใส่ใจในผู้บริโภคมากกว่า ดังนั้นจากกลยุทธ์เดิมที่ “เน้นแบรนด์และสินค้า” จึงถูกปรับเป็นกลยุทธ์ “เน้นผู้บริโภค” เพื่อสร้างความสนใจและรับรู้ของผู้บริโภค ดังนั้นกุญแจสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคคือการสร้างมูลค่าอย่างตรงจุด เพื่อให้เกิดการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง

<Establishment of Future Consumer Value Chain (ขอบคุณภาพจาก Deloitte)>

แน่นอนว่าการแข่งขันของแบรนด์ มีหลากหลายมิติที่ต้องให้ความสนใจ ซึ่งสิ่งสำคัญคือแบรนด์ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

จากภาพแผนผังนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมในการเลือกซื้อของผู้บริโภค จากอดีตที่เป็นการเลือกซื้อสินค้าจากห้างร้าน จากการได้สัมผัสสินค้า หรือช่องทางที่เป็นสื่อกลางอย่าง วิทยุ FM AM การรีวิวที่มาจากการบอกต่อ จนมาถึงยุคปัจจุบัน ที่เริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว เริ่มมีการเลือกซื้อ การศึกษาข้อมูลผ่านโลกออนไลน์หลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะ Social Media ที่เป็นทั้งช่องการซื้อขายและการแนะนำบอกต่อ ไปจนถึงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต ที่เริ่มเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้ามาตอบโจทย์การให้บริการ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากยุค Traditional อย่างสิ้นเชิง เพราะจะใช้ความฉลาดของ AI เข้ามาช่วยในการให้บริการและรู้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้แบบตรงจุดมากขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของตลาดในยุคดิจิทัล และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนด้วย BIG DATA เพื่อออกแบบการวางกลยุทธ์ให้กับแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะทุกวันนี้ ผู้บริโภคไม่เพียงแค่ต้องการสินค้าหรือบริการที่ดีมีคุณภาพเท่านั้น แต่ต้องการแบรนด์ที่มีความเอาใจใส่ผู้บริโภค ตั้งแต่การรับรู้ความต้องการของผู้บริโภค , รับฟังเสียงของผู้บริโภค , มีการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้บริโภค และคำนึงถึงความพึงพอใจของผู้บริโภค

 

ขอฝากหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยฟังเสียงในใจของผู้บริโภคได้อย่าง “รวดเร็ว” และ “แม่นยำ“

DOM: Social Listening & Social Analytics Tool

DOM จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดและตรงจุด เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
รู้ Social Movement ในทุกตลาดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง
รู้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ พร้อมติดตามผลตอบรับได้แบบ Real-Time

เพราะการมี Insight ที่ดี Insight ที่ใช่ มีชัยไปกว่าครึ่ง!
สนใจทดลองใช้ DOM หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.insightera.co.th/dom/

 

✓ The right insight at your fingertips.

—————

“InsightEra” ผู้ให้บริการ MarTech แบบครบวงจร

สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติม
https://www.insightera.co.th/contact-us/
Email : [email protected]