SHARES:

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน การเข้าใจและตอบสนองต่อความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้

Social Listening จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตาม รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Social Listening คืออะไร?

เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวม ติดตาม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า หรือบริการของธุรกิจนั้นๆ จากการวิเคราะห์การแสดงความคิดเห็น การแชร์ประสบการณ์ บนสื่อโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook , Instagram , X(Twitter) ฯลฯ ไปจนถึงเว็บไซต์และเว็บบอร์ดยอดนิยมอย่าง Pantip เป็นต้น เพื่อติดตามแบรนด์ คู่แข่ง และเทรนด์ตลาดที่สนใจ

การทำ Social Listening อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ช่วยให้องค์กรหรือธุรกิจได้รับข้อมูลในเชิงลึกจากมุมมองและการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของผู้บริโภค โดยไม่ผ่านการกลั่นกรองหรือมีอคติใดๆ มาเกี่ยวข้อง
แตกต่างจากการสำรวจความคิดเห็นแบบเดิมๆ ที่อาจมีข้อจำกัดหรือปัจจัยแทรกซ้อนต่างๆ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลจาก Social Listening เป็นข้อมูลที่ละเอียด ครบถ้วน รับรู้ถึงความต้องการ ความคาดหวัง และประเด็นปัญหาที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญอยู่ได้อย่างแท้จริง

ซึ่งนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์การตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก

ทำไมธุรกิจถึงควรใช้ Social Listening 
1. เข้าถึงความคิดเห็นที่แท้จริงของผู้บริโภค

จากการแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยบนโลกออนไลน์ Social Listening จะทำให้ธุรกิจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ความชื่นชอบ ทัศนคติ พฤติกรรม และปัญหาที่แท้จริงของลูกค้า ไม่เพียงแค่ผลสำรวจหรือกลุ่มตัวอย่าง ทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกและมีมุมมองที่กว้างขึ้น

ในอดีต การสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมผู้บริโภคมักทำได้ยากและมีข้อจำกัดหลายด้าน อาจมีปัจจัยแทรกซ้อนจากกลุ่มตัวอย่าง บริบททางสังคม ความไม่เป็นกลาง หรือการขาดความเปิดเผยจากผู้ตอบแบบสอบถาม แต่ในยุคที่โลกออนไลน์มีบทบาทมากขึ้น คนส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์ และวิจารณ์สินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างเปิดเผย Social Listening จึงเป็นช่องทางที่ธุรกิจจะได้เห็นมุมมองและความคิดเห็นตรงไปตรงมาจากกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ การนำข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้งาน เช่น อายุ เพศ ตำแหน่งงาน จะทำให้ธุรกิจเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคในมิติต่างๆ ได้อย่างรอบด้าน เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีความคิดเห็น พฤติกรรม และความต้องการอย่างไร เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด

2. คาดการณ์แนวโน้มล่วงหน้า

จากการติดตามและวิเคราะห์ยอดแชร์ ปริมาณการพูดถึง แฮชแท็ก(#) การกระจายของข้อมูลหรือวีดีโอบนสังคมออนไลน์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถจับกระแสและแนวโน้มใหม่ๆ ก่อนคู่แข่ง นำข้อมูลมาวางแผนรับมือและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างทันท่วงที ไม่ตกขบวนในกระแสใหม่

การเกิดกระแสไวรัล (Viral) หรือการแชร์ข้อมูลหนึ่งๆ อย่างรวดเร็วบนสื่อสังคมออนไลน์ อาจบ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังได้รับความนิยม พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป หรือโอกาสทางการตลาดในแนวทางใหม่ๆ ธุรกิจที่มีการใช้ Social Listening อย่างต่อเนื่องจะสามารถจับสัญญาณเหล่านี้ได้เร็วกว่าคู่แข่ง และสามารถนำข้อมูลมาวางกลยุทธ์ก่อนที่กระแสจะถูกแย่งชิงหรือล้าสมัยไป

ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าอาจสังเกตเห็นว่ากระแสการสวมใส่ลวดลายพิมพ์ลายสัตว์ (Animal Print) กำลังเป็นที่นิยมบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมียอดการแชร์และการโพสต์เกี่ยวกับลายพรางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถนำข้อมูลนี้มาวางแผนการผลิตและออกแบบเสื้อผ้าแนวนี้ล่วงหน้าก่อนคู่แข่ง ทำตลาดให้ตรงกระแสได้ทันท่วงที หรือสามารถวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นไว้ก่อนล่วงหน้า

3. สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

Social Listening ทำให้ธุรกิจรับรู้ถึงพฤติกรรม ความสนใจ และข้อคิดเห็นของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที จึงสามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ร่วมสนทนา แก้ไขปัญหา ตอบคำถาม และรับฟังความต้องการจากลูกค้าได้อย่างตรงจุด เกิดการสื่อสารสองทาง สร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์

การโต้ตอบหรือตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็วบนสื่อออนไลน์ จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้านการบริการที่ดี นอกจากนี้การแสดงความคิดเห็น ชื่นชม หรือแชร์เนื้อหาที่น่าสนใจของแบรนด์ ก็เป็นอีกช่องทางในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเช่นกัน

4. ปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์

ข้อมูลที่ได้จาก Social Listening บ่งชี้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหา และโอกาสในการพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งคุณภาพการบริการ คุณภาพผลิตภัณฑ์ ความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้ตรงประเด็นมากขึ้น

หากพบว่ามีผู้บริโภคจำนวนมากพูดถึงปัญหาหรือข้อบกพร่องของสินค้าหรือบริการในประเด็นหนึ่งๆ ธุรกิจสามารถนำข้อมูลนี้ไปปรับปรุงและแก้ไขได้ทันท่วงที หรือหากมีผู้บริโภคแสดงความต้องการผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ มาก ธุรกิจก็สามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนองได้

5. การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายในมิติต่างๆ ทั้งความสนใจ พฤติกรรมการบริโภค และข้อคิดเห็น ธุรกิจจะสามารถสร้างกลยุทธ์การตลาด ออกแบบแคมเปญ เนื้อหาการสื่อสาร และโฆษณาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ช่วยให้การลงทุนทางการตลาดคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ธุรกิจไม่จำเป็นต้องสุ่มลงทุนทางการตลาด แต่สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายและปรับเนื้อหาให้ตรงใจมากขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจาก Social Listening ประกอบ เช่น วางกลยุทธ์โฆษณาดิจิทัลบนแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายใช้งานอยู่ เลือกช่องทางการสื่อสารและออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับความสนใจและรูปแบบการใช้งานของแต่ละกลุ่ม เป็นต้น

สรุปได้ว่า Social Listening เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจและเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ก้าวทันต่อแนวโน้มและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกออนไลน์ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และกลยุทธ์ทางการตลาดตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างตรงจุด ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลทรงคุณค่าที่มีมหาศาลบนโลกออนไลน์

 

ตัวอย่างการใช้ Social Listening สำหรับธุรกิจ
1. สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

– ติดตามความคิดเห็น รีวิว และประสบการณ์ของลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหาร เพื่อประเมินจุดแข็ง จุดอ่อนของร้าน ทั้งด้านรสชาติอาหาร บริการ บรรยากาศ เป็นต้น
– วิเคราะห์แนวโน้มความนิยมของเมนูอาหารประเภทต่างๆ เพื่อปรับเมนูหรือคิดค้นเมนูใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
– ติดตามการแบ่งปันภาพอาหารจากร้าน เพื่อเห็นภาพลักษณ์และมุมมองของลูกค้าที่มีต่อร้าน

2. สำหรับธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภค

– ติดตามความคิดเห็นและประสบการณ์หลังการใช้สินค้า เพื่อหาจุดบกพร่อง ปรับปรุงคุณภาพสินค้า
– วิเคราะห์แนวโน้มความนิยมของกลุ่มสินค้าประเภทต่างๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์สินค้าและปรับปรุงผลิตภัณฑ์
– ติดตามการแสดงความคิดเห็นต่อโฆษณาและแคมเปญการตลาดของตนเอง เพื่อประเมินผลตอบรับ

3. สำหรับธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม สปา ธุรกิจท่องเที่ยว

– ติดตามความคิดเห็นและประสบการณ์การใช้บริการ เพื่อประเมินคุณภาพบริการและหาจุดที่ต้องปรับปรุง
– วิเคราะห์แนวโน้มความสนใจในบริการประเภทต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการลูกค้า
– ติดตามการแบ่งปันภาพและบรรยากาศของสถานที่ เพื่อเห็นมุมมองของลูกค้าต่อแบรนด์และบริการ

4. สำหรับธุรกิจไอทีและเทคโนโลยี

– ติดตามความคิดเห็นและปัญหาจากการใช้งานแอพพลิเคชัน เว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ เพื่อแก้ไขในเวอร์ชันต่อไป
– วิเคราะห์แนวโน้มและความต้องการใช้งานด้านเทคโนโลยีประเภทใหม่ๆ เช่น AI, IoT เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์
– ติดตามการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ บริการ และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

เครื่องมือ Social Listening เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการติดตามและวิเคราะห์การสนทนาออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งในประเทศไทย เครื่องมือ Social Listening กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการติดตามและเข้าใจความคิดเห็น ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกออนไลน์

การทำ Social Listening อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลสำคัญและรู้ทันพฤติกรรมของลูกค้า สามารถตอบโจทย์และสร้างสรรค์สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เครื่องมือ Social Listening ยังช่วยให้สามารถติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มในสังคม ประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจ รวมถึงการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

มาทำความรู้จักกับ Social Listening ที่พัฒนาโดยคนไทย วิเคราะห์ภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ

DOM Social Listening เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยบริษัท InsightERA ผู้ให้บริการด้าน Marketing Technology(MarTech) แบบครบวงจร
เพื่อช่วยธุรกิจในประเทศไทยในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ เครื่องมือนี้มีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความคิดเห็นของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์อารมณ์ (Sentiment Analysis) ที่สามารถจำแนกข้อความเป็นความคิดเห็นเชิงบวก เชิงลบ หรือทั่วไป โดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการเรียนรู้ของ Machine Learning

นอกจากนี้ DOM ยังมีฟีเจอร์ Real-Time Monitoring ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของคู่แข่งและจัดการวิกฤตได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังมีการวิเคราะห์ Influencer ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดและวัดประสิทธิภาพของ Influencer ที่มีผลต่อแบรนด์ได้

ด้วยการมีฟีเจอร์เหล่านี้ DOM จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการแข่งขันในยุคดิจิทัลปัจจุบัน 

DOM Social Listening เป็นเครื่องมือในการติดตาม รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อโซเชียลต่างๆ ครบวงจร ประกอบด้วย 4 ส่วนหลักคือ
1. Data Collection (การรวบรวมข้อมูล)

เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ติดตาม รวบรวมข้อมูลจากแหล่งโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ฯลฯ ทั้งจากบัญชีของแบรนด์เอง และจากการสนทนาของผู้ใช้งานทั่วไปที่เป็น Public ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ โดยสามารถกำหนดคำค้นหา แฮชแท็ก ได้ตามต้องการ

2. Data Processing (การประมวลผลข้อมูล)

หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้ว จะผ่านการประมวลผลเพื่อแยกแยะ จัดหมวดหมู่ และกรองข้อมูลต่างๆ ให้เป็นระบบและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น

3. Data Analysis (การวิเคราะห์ข้อมูล)

ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว จะถูกนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบ AI เพื่อหาความสัมพันธ์ แนวโน้ม การวิเคราะห์ความรู้สึก และความคิดเห็นที่มีต่อแบรนด์หรือประเด็นต่างๆ

4. Reporting (การจัดทำรายงาน)

เป็นการนำผลการวิเคราะห์มาสรุปและนำเสนอให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยมักมาในรูปแบบของรายงานประจำหรือแดชบอร์ด พร้อมด้วยกราฟและสถิติต่างๆ ที่ช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น สามารถจำแนกข้อมูลตามประเด็น ประเภท ช่วงเวลา พื้นที่ ฯลฯ

โดยเป้าหมายหลักของ DOM Social Listening คือการช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวม วิเคราะห์ และจัดการข้อมูลจากโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง นำไปสู่การวางกลยุทธ์และสร้างนวัตกรรมได้ตรงจุด

DOM Social Listening จึงเป็นระบบที่ผสานเครื่องมือ Social Listening พร้อมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลการสื่อสารกับผู้ใช้งานไว้อย่างครบวงจร ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลจากโซเชียลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคเข้าถึงสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลายตลอด 24 ชั่วโมง การใช้เครื่องมือ Social Listening จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง 

เห็นแนวโน้มและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำข้อมูลมาปรับกลยุทธ์การตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของลูกค้า

Social Listening ไม่ใช่เพียงติดตามเสียงสะท้อนของลูกค้าเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในการพูดคุย แก้ปัญหา และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้ามีความผูกพันและภักดีต่อแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นธุรกิจจำเป็นต้องนำ Social Listening มาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ เพื่อให้สามารถอยู่ในหัวใจของผู้บริโภค สร้างสรรค์สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้อย่างแม่นยำ ก้าวนำคู่แข่ง และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

✓ The right insight at your fingertips.

—————

“InsightEra” ผู้ให้บริการ MarTech แบบครบวงจร

สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติม
https://www.insightera.co.th/contact-us/
Email : [email protected]