ในปัจจุบัน การทำการตลาดเราจะต้องหากลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม
ซึ่ง “คนโสด” ถือว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่แบรนด์ควรหันมาให้ความสนใจให้มากยิ่งขึ้น
จากหลากหลายเหตุผล เช่น ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต หรือแม้แต่ความสามารถในการจับจ่ายที่มีมากไม่แพ้กับคนมีคู่ สิ่งเหล่านี้คือโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มการแข่งขันทางการตลาดได้
จากผลสำรวจล่าสุด โดยการเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ DOM – Social Listening & Social Analytics Tool (https://www.insightera.co.th/dom/)
👉 โดยเริ่มเก็บสถิติที่เป็นข้อมูลล่าสุดในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 – 16 กุมภาพันธ์ 2567 (12.00 น.)
ทั้งนี้เครื่องมือ DOM ได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกพูดถึง โดยวัดจาก Keyword ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ ‘คนโสด’
ชาวโซเชียลมีเดียมีการพูดถึง ‘ความโสด’ Engagement รวมกว่า 1,370,609
แพลตฟอร์มที่ได้รับความสนใจจากคนโสด มาจากช่องทาง Facebook มากที่สุด ตามมาด้วย X (Twitter) ซึ่งเครื่องมือ DOM ได้จำแนกข้อมูลจากแต่ละช่องทางออกมาดังนี้
Facebook 731,400 Engagement
X (Twitter) 479,056 Engagement
Instagram 138,913 Engagement
เมื่อหากทำการสำรวจผ่านฟีเจอร์ Live Feed จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มักเป็นการโพสต์เพื่อหาคู่ชั่วครั้งชั่วคราว มากกว่าการหาคู่เพื่อสานสัมพันธ์ในระยะยาว ซึ่งจากการที่คนโสดแสวงหาคู่ชั่วคร่าวนั้น ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าคนโสดมีต้นทุนในการใช้ชีวิตมากกว่าคนมีคู่ เพราะคนมีคู่ล้วนมาคู่กับการจัดระเบียบชีวิต หรือจัดระเบียบทางการเงิน ขณะที่คนโสดมีอิสรภาพทางการเงิน และพร้อมที่จะ ‘เปย์’ มากกว่า
โสดสายเปย์ พลังอำนาจในการซื้อที่ ‘ไม่เล็ก’
คนโสดไม่ได้หมายความจะประหยัดกว่าคนมีคู่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนโสดพร้อมเปย์กว่า เพื่อความสุขของตัวเอง ไม่ว่าจะกิน เที่ยว หรือช้อป เนื่องจากการที่ไม่มีพันธะหรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เท่าคนมีครอบครัว
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่า คนโสด มีรายจ่ายเพื่อการบริโภคสูงกว่าคนมีครอบครัวเฉลี่ย 11% โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ที่คนโสดมีรายจ่ายส่วนนี้สูงกว่าคนมีครอบครัวถึง 40%
และที่สำคัญในเรื่องของอาหารการกิน คนโสดมีค่าใช้จ่ายในการกิน มากกว่าคนมีครอบครัว 12% เพราะคนโสดมีการทานอาหารนอกบ้านมากกว่าคนมีครอบครัว
กลุ่มคนโสดจึงถือเป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง การวางแผนการตลาดและรู้ว่าลูกค้าต้องการสินค้าหรือบริการแบบใด ย่อมทำให้ได้เปรียบทางการตลาดมากยิ่งขึ้น
ความโสดไม่ใช่ตราบาป
ในยุคที่ความโสดเป็นเรื่องปกติ ด้วยความที่โลกเปิดกว้างมากขึ้น ความหลากหลายของกลุ่มคนก็ยิ่งมากขึ้นตามมา การเป็นโสดไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าอีกต่อไป เมื่อค่านิยมที่เปลี่ยนไป คนยุคใหม่พึงพอใจกับการใช้ชีวิตเป็นโสดและมีความสุขกับการใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้น
เมื่อคนอยู่คนเดียวกันมากขึ้น ก็นำไปสู่การปรับขนาดสินค้าและลักษณะการบริการให้มีไซส์เหมาะสมกับขนาดคนโสดตัวคนเดียว
อินไซท์เอราจะพาทุกคนไปรู้จักกับเทคนิคปรับกลยุทธ์การตลาดธุรกิจรับตลาดคนโสด
ธุรกิจร้านอาหาร
ไม่ว่าจะร้านอาหาร คาเฟ่หรือบาร์ จะต้องมีการออกแบบสถานที่เพื่อรองรับลูกค้าที่มาทานคนเดียวให้มีพื้นที่มากขึ้น โดยสามารถแบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่สำหรับนั่งคนเดียวเพื่อให้มีความส่วนตัว อย่างบาร์นั่งคนเดียว เช่น Sushiro, Yakiniku Like หรือร้านหม่าล่าสายพานต่างๆ ที่สามารถนั่งคนเดียวได้อย่างสบายใจ
รวมถึงการทำเมนูอาหารสำหรับทานคนเดียวให้มีหลากหลายมากขึ้นไม่เพียงแต่อาหารจานเดียวแบบเดิมๆ
ธุรกิจ Delivery
สำหรับ Delivery นั้นไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนไม่มีเวลา แต่รวมถึงคนโสดด้วยเช่นกัน เพราะช่วยในการอำนวยความสะดวกให้สามารถสั่งสินค้าได้อย่างง่ายดาย แต่หากมีการสั่งอาหารในจำนวนน้อย อาจทำให้ไม่คุ้มค่าจัดส่ง ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถถนอมอาหารให้อายุนานขึ้น โดยคุณภาพยังคงเดิมมากที่สุด เพื่อที่คนโสดจะได้สามารถสั่งอาหารในปริมาณที่สูงขึ้น หรืออาจมีแคมเปญโปรโมชั่นลดราคาค่าจัดส่ง เพื่อการจัดส่งที่ถูกลง
ธุรกิจการท่องเที่ยว
กลุ่มคนโสดจำนวนมากมีการวางแผนรูปแบบการเดินทางเอง โดยอาจหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต หรือใช้บริการทัวร์ตามไลฟ์สไตล์ โดยอย่างแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ “ความปลอดภัย” เพราะแน่นอนว่าคนโสดเองด้วยความที่อาจจะอยู่คนเดียว ทำให้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็อาจจะทำให้คนรอบข้างไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น รวมไปถึงธุรกิจให้บริการพื้นที่ทำงาน หรือกิจกรรมร่วมกันสำหรับคนโสดที่ต้องการเข้าสังคม (Co-Working Space) ที่ต้องปรับรูปแบบให้สอดรับกับพฤติกรรมของคนโสดมากยิ่งขึ้น
การเลือกใช้ชีวิตคนเดียวนั้นถูกพูดถึงมาสักพัก แต่การเข้ามาของ COVID-19 เป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้น การทำการตลาดให้มีความเจาะจงเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะถูกใช้อย่างเข้มข้นมากขึ้นในโลก Digital Marketing
สำหรับท่านที่กำลังมองหา เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์และต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดได้ดียิ่งกว่าเดิม!
อินไซท์เอรา ผู้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า DOM – Data Opinion Mining เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีจุดเด่นเรื่องการวิเคราะห์ภาษาได้แม่นยำ ระบบภายในใช้ง่าย อีกทั้ง Analyics View มีความหลากหลาย และเจาะลึก
สามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจ และนักการตลาดได้แบบ “ครบทุกมิติ” ช่วยวิเคราะห์ Customer Insight เปรียบเทียบคู่แข่ง หา Infuencer และนำไปใช้วิเคราะห์ต่อยอดกลยุทธ์ให้ธุรกิจได้ทันที
ทำความรู้จัก DOM : Social Listening & Social Analytics Tool จาก InsightERA
✓ The right insight at your fingertips.
—————
“InsightEra” ผู้ให้บริการ MarTech แบบครบวงจร
สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติม
https://www.insightera.co.th/contact-us/
Email : [email protected]
