ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแบรนด์ต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจหลายๆ ส่วน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม
วันนี้อินไซท์เอราจะพาไปส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ในปี 2024 โดย Gartner ที่อาจส่งผลกระทบกับแบรนด์ได้ในอนาคต โดยแบ่งออกเป็น 3 ธีม ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้
10 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ในปี 2024 โดย Gartner มีอะไรบ้าง?
Theme 1 : Protect Your Investment
1. AI Trust, Risk and Security Management (AI TRiSM)
ปัจจุบันระบบ AI ถูกนำมาใช้กับแอปพลิเคชันที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน รวมไปถึงการขนส่งสินค้า และ จากการเข้าถึง AI ได้อย่างเสรี ทำให้ต้องมีการจัดการทางด้านความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยงและความปลอดภัย AI TRiSM จึงกลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างมากในอนาคต หากไม่มีการป้องกันอย่างเหมาะสมระบบการทำงานก็มีโอกาสเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 แบรนด์หรือธุรกิจที่ใช้การควบคุม AI TRiSM จะเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ โดยกำจัดข้อมูลผิดพลาดและผิดกฎหมายได้มากถึง 80%
2. Continuous Threat Exposure Management (CTEM)
CTEM เป็นตัวช่วยในการจัดการความเสี่ยงต่อภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นแนวทางเชิงปฏิบัติและช่วยแบรนด์ประเมินการเข้าถึงความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงภัยคุกคามอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้าง และโครงสร้างของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 แบรนด์หรือธุรกิจที่จัดลำดับความสำคัญการลงทุนด้านความปลอดภัยตามโปรแกรม CTEM จะพบว่าการละเมิดลดลง 2 ใน 3
3. Industry Cloud Platforms
Industry Cloud Platforms (ICP) เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ และสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมให้ตรงกับความต้องการในแต่ละธุรกิจได้ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธุรกิจเช่น ความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 แบรนด์หรือธุรกิจมากกว่า 70% จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อุตสาหกรรม (ICP) เพื่อเร่งโครงการใหม่ ๆ ทางธุรกิจของตน เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 15% ในปี 2566
4. Sustainable Technology
Sustainable Technology หรือเทคโนโลยีที่ยั่งยืน เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นต้นตอของปัญหาทางสิ่งแวดล้อมหลายๆ อย่าง เช่นAI, Cryptocurrency, Internet of Things และ Cloud Computing ที่ต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล Sustainable Technology จึงทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับความเสี่ยงในโลกธรรมชาติ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทางสังคมเพื่อช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสิทธิมนุษยชน ความอยู่ดีมีสุข และความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2027 ผู้บริหารระดับ CIO 25% จะเห็นการเชื่อมโยงของค่าตอบแทนส่วนบุคคลกับผลกระทบทางเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
5. Democratized Generative AI
เทคโนโลยี GenAI มีความสามารถในการสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ๆ จากอินเทอร์เน็ต ทั้งรูปภาพ คำพูด ข้อความ ฯลฯ ให้มีความพร้อมในการใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตของธุรกิจได้
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 แบรนด์หรือธุรกิจมากกว่า 80% จะใช้ GenAI API และโมเดลต่าง ๆ และ/หรือปรับใช้แอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานGenAI ในสภาพแวดล้อมการผลิต เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 2566 ที่น้อยกว่า 5%
Theme 2 : Rise of the builders
6. Platform Engineering
Platform Engineering เป็นการออกแบบ การสร้าง และการดำเนินงานด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล ผ่านการเชื่อมต่อเครื่องมือและกระบวนการต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ สามารถจัดการและพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างอิสระ น่าเชื่อถือ และปลอดภัย
Gartner ได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 องค์กรวิศวกรรมซอฟต์แวร์ 80% จะจัดตั้งทีม Self-service Platform ภายในองค์กร ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
7. AI-Augmented Development
AI-Augmented Development เป็นการใช้เทคโนโลยี AI เช่น Generative AI และ Machine Learning (ML) เพื่อช่วยในการออกแบบ เขียนโค้ด และทดสอบแอปพลิเคชันให้กับวิศวกรซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถตอบสนองความต้องการซอฟต์แวร์ที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ดด้วยเช่นกัน
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2028 วิศวกรซอฟต์แวร์ระดับองค์กร 75% จะใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดเพิ่มขึ้น จากน้อยกว่า 10% ในต้นปี 2023
Theme 3 : Deliver the value
8. Intelligent Applications
เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นโดยใช้เทคโนโลยี AI และเชื่อมต่อข้อมูลจากหลายแหล่งภายนอกในการสร้างความแตกต่างและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าและผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลเป็นอย่างมาก เทรนด์ AI นี้มักจะถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายประเภท โดย Gartner ให้คำจำกัดความของแอปพลิเคชันอัจฉริยะ ว่าเป็นความสามารถในการเรียนรู้ปรับตัวให้ตอบสนองอัตโนมัติอย่างเหมาะสม โดยข้อมูลอัจฉริยะนี้สามารถนำไปใช้ในหลายเคสการใช้งานเพื่อเพิ่มหรือทำงานอัตโนมัติได้ดียิ่งขึ้น
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 30% ของแอปพลิเคชันใหม่ ๆ จะใช้ AI ในการพัฒนา UI (User Interfaces) ให้สามารถปรับเปลี่ยนสอดคล้องผู้ใช้งาน เพิ่มขึ้น จากต่ำกว่า 5% ในปัจจุบัน
9. Augmented-Connected Workforce
ACWF เป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มมูลค่าที่ได้รับจากแรงงานมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นโดยใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างความแตกต่างและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าและผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลเป็นอย่างมาก เทรนด์ AI นี้ มักจะถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายประเภท
Gartner ได้คาดการณ์ว่า 25% ของ Chief Information Officer (CIO) จะใช้ Augmented-Connected Workforce เพื่อลดระยะเวลาในการเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานลง 50% ภายในปี 2027
10. Machine Customers
เป็นการนำ AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนรูปแบบของการให้บริการทางธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า เช่น การที่ลูกค้าใช้ AI ในการโต้ตอบกับร้านค้าผ่านแชทบอท ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้งแล้วมากกว่า 9.7 พันล้าน สิ่งเหล่านี้มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มในการเป็นผู้ซื้อหรือลูกค้าได้ในอนาคต
Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2028 15 พันล้านผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมต่อ จะมีศักยภาพในการเป็นลูกค้าได้ ส่งผลกระทบต่อการซื้อมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2039
เทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถช่วยแบรนด์หรือธุรกิจได้ ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่ยุคที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะยิ่งช่วยให้แบรนด์สามารถเท่าทันโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจะต้องมีปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
สำหรับท่านที่กำลังมองหา เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์และต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดได้ดียิ่งกว่าเดิม!
อินไซท์เอรา ผู้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า DOM – Data Opinion Mining เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีจุดเด่นเรื่องการวิเคราะห์ภาษาได้แม่นยำ ระบบภายในใช้ง่าย อีกทั้ง Analyics View มีความหลากหลาย และเจาะลึก
สามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจ และนักการตลาดได้แบบ “ครบทุกมิติ” ช่วยวิเคราะห์ Customer Insight เปรียบเทียบคู่แข่ง หา Infuencer และนำไปใช้วิเคราะห์ต่อยอดกลยุทธ์ให้ธุรกิจได้ทันที
ทำความรู้จัก DOM : Social Listening & Social Analytics Tool จาก InsightERA
✓ The right insight at your fingertips.
—————
“InsightEra” ผู้ให้บริการ MarTech แบบครบวงจร
สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติม
https://www.insightera.co.th/contact-us/
Email : [email protected]