SHARES:

ยุคดิจิทัลที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพราะมีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาส่งผลให้ข้อมูลสามารถเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็ว 

ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์โลกของการทำธุรกิจต่างให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า “Data” เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ แล้วนำมาออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับแบรนด์และเอาชนะคู่แข่งได้ จึงเป็นที่มาของการเกิดกลยุทธ์ “Data Driven Marketing” หรืออีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ “การตลาดขับเคลื่อนด้วยข้อมูล”

ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่า Data หรือข้อมูลของธุรกิจมีความสำคัญมาก หลายแบรนด์จึงพยายามที่จะดึงเอาข้อมูลมาจำแนก แยกแยะ และวิเคราะห์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งราคา การตั้งเงินเดือนพนักงาน หรือแม้กระทั่งโปรโมชั่น แต่เราจะทำยังไงให้ธุรกิจสามารถดึงข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้?

วันนี้อินไซท์เอราจะพามาทำความรู้จักกับ Data Driven Marketing ว่าคืออะไร? มีความสำคัญในการทำธุรกิจอย่างไร? รวมถึงจะพาไปรู้จักการทำ Data Analytics กันค่ะ 
Data Driven Marketing คืออะไร? 

Data Driven Marketing หรือการตลาดแบบขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป็นการใช้ข้อมูลจากช่องทางที่หลากหลาย ทั้งข้อมูลที่ได้รับโดยตรงจากลูกค้า หรือทางอ้อมผ่านการพูดถึงบนแพลตฟอร์มต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์ ทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจทางการตลาด และออกแบบกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด (Marketing Message) เช่น

  • การตลาดโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)
  • การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management : CRM)
  • การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Exprience)
  • การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing)

ซึ่ง Data Driven Marketing จะช่วยให้การวางแผนการตลาด ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่างจากการตลาดแบบทั่วไปที่ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาหรือการคาดเดาของตนเองในการตัดสินใจ

ในการเก็บข้อมูล Data จากลูกค้า จะต้องอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) นั่นหมายความว่าข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์จะต้องได้รับการอนุญาตไม่ละเมิดสิทธิ หรือไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความเสียหายนั้นเอง ดังนั้นในการนำ Data มาใช้งาน แบรนด์จำเป็นต้องรู้จักใช้ข้อมูล และเครื่องมือการทำการตลาดที่เหมาะสม

Data Driven Marketing มีความสำคัญในการทำธุรกิจอย่างไร?

ข้อมูล Data เป็นข้อมูลที่มีมหาศาล ดังนั้นการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยเพิ่มการมองเห็นพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำการตลาดให้ลูกค้าสนใจแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการไปสู่การประสบความสำเร็จของแบรนด์

ตัวอย่างประโยชน์จากการทำ Data Driven Marketing

1.ใช้หาข้อมูลลูกค้าเชิงลึก (Customer Insight)
อย่างที่ได้พูดถึงในช่วงแรกว่า Data Driven Marketing ช่วยให้เราเข้าใจถึง Personal และพฤติกรรมของลูกค้า รวมถึงข้อมูลความสนใจ ด้านพฤติกรรม ความเชื่อ ทัศนคติต่างๆ โดยในการวิเคราะห์อาจรวมไปถึงพฤติกรรมการซื้อในอดีต พฤติกรรมการค้นหาสินค้าผ่านจากทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริงที่สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดและพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับลูกค้า
ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้หลากหลายวิธีทั้งในรูปแบบ Open Source, Owned Source หรือจะเลือกเก็บข้อมูลจาก Social Media ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Social Listening ก็ได้เช่นกัน ซึ่งอินไซท์เอราเองก็เป็นหนึ่งในผู้พัฒนา Social Listening Tool อย่าง “DOM (Data Opinion Mining)” ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดและตรงจุด

2.ใช้ทำการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing)
75% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อหลังจากได้รับคำแนะนำส่วนบุคคล โดย Personalization Marketing คือการใช้กลยุทธ์โดยนำเสนอเนื้อหาเฉพาะบุคคลไปยังลูกค้าผ่านการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการใช้ Automation Technology

ซึ่งเป้าหมายของการตลาดรูปแบบนี้คือการมีส่วนร่วมกับลูกค้าหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า โดยการสื่อสารผ่านรายบุคคล เช่น การได้รับอีเมล์โฆษณา SMS หรือจากช่องทางอื่นๆ

3.ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience)
การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience) และการติดตามข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียในการติดตามและวัดผลลัพธ์ต่าง ๆ อย่างเช่น Customer Journey เส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ก่อนจะเป็นลูกค้า จนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ รวมถึงกลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้นซ้ำ
อ่านบทความ Customer Journey ได้ที่ https://www.insightera.co.th/Customer-Journey

4.ช่วยในการทำ SEO และ SEM
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำ SEO (Search Engine Optimization) และ SEM (Search Engine Marketing) คือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ลูกค้าสนใจและมีการใช้จริง ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้แม่นยำเท่าการนำข้อมูลที่มีมาใช้วิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นคีย์เวิร์ดของลูกค้าที่ได้จากการเก็บข้อมูล สิ่งที่ลูกค้ากำลังให้ความสนใจ จำนวนครั้งในการค้นหา หรือค่าใช้จ่ายในการใช้แต่ละคีย์เวิร์ด ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อให้เราเลือกใช้คำได้ตรงที่สุด
ซึ่ง Word Cloud หนึ่งในเครื่องมือ DOM – Social Listening จะเป็นตัวช่วยในการรวบรวม Keyword หรือ #Hashtag ไหน ได้รับการพูดถึง (Mention) มากสุด แล้วทำการตัดคำให้เหลือข้อความที่สำคัญ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลนั้นได้ง่าย ซึ่งเราสามารถทราบได้ทันทีว่า มีคำหรือข้อความ #Hashtag ใดที่มีการพูดถึงมากที่สุด

5.สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า (Customer Relationship Management)
การมีข้อมูลในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือให้ปรับปรุงเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความพึงพอใจและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะการโปรโมท จำเป็นต้องใช้ข้อมูลและความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดต้นทุนการโฆษณา อีกทั้งยังสามารถใช้ข้อมูลเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ผ่านการทำโฆษณาแบบ Retargeting ซึ่งช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าและบริการซ้ำอีกด้วย 

การวิเคราะห์ข้อมูลจากการทำ Data Driven Marketing

กำหนดเป้าหมาย Data Driven Strategy : ขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะเริ่มเก็บรวบรวมข้อมูล คือ การตั้งเป้าหมาย และกำหนดวัตถุประสงค์ของข้อมูลที่จะนำไปใช้ให้ชัดเจน ซึ่งรวมถึงการกำหนดเครื่องมือที่จะใช้ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอีกด้วย

เก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) : การเก็บและวิเคราะห์ Data ที่ถูกต้องนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ Data Driven ในทุกๆมิติเลยก็ว่าได้ เนื่องจากข้อมูลอาจมีปริมาณมากและอาจถูกเก็บอย่างกระจัดกระจาย ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันที ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนใหญ่จึงใช้เครื่องมือ (Data Tool) เข้าไปดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลโดยตรง

การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) : Data Analytics เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าทั้งในอดีต ปัจจุบัน รวมถึงการคาดการณ์ข้อมูลในอนาคต เพื่อนำมาวางแผนแคมเปญการตลาด สรุปผลลัพธ์ตามเป้าหมายการวิเคราะห์ของแบรนด์ และผลักดันกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ได้

ขยายผล Insight เพื่อข้อมูลใหม่ๆ : การนำ Insight ที่ได้มานำเสนอออกมาเป็น Dashboard เพื่อให้เข้าใจง่าย เห็นภาพรวมได้ชัดเจน ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ และวัดผลอยู่เสมอ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลใหม่ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพจากพฤติกรรมของลูกค้าจริงๆ ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เราเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นซึ่งสามารถตัดสินใจและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ทันที ไม่ว่าจะทำไปวางกลยุทธ์ วางแผนปฏิบัติงาน หรือตัดสินใจเลือกช่องทางในการทำการตลาด 

ปัจจุบันข้อมูลของลูกค้ามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดยุคใหม่มากขึ้น ซึ่งในการทำ Data Driven Marketing นั้น หากเราสามารถนำข้อมูลจาก Big Data ที่เก็บรวบรวมมาเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์ด้วยก็จะยิ่งทำให้กลยุทธ์การทำตลาดรูปแบบนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำ Data Analytics เพื่อนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจเป็นสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรให้ความสำคัญ เพราะในวันที่ตลาดเปิดกว้างและมีการแข่งขันสูง การใช้ประโยชน์จากข้อมูลย่อมแบรนด์ย่อมได้เปรียบทางธุรกิจอย่างแน่นอน ปัจจุบันนิยมใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือช่วย เพราะสามารถจัดการข้อมูลได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

สำหรับท่านที่สนใจเครื่องมือ Social Listening

อินไซท์เอรา ผู้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า DOM – Data Opinion Mining เป็นหนึ่งในเครื่องมือ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจ และนักการตลาดได้แบบ “ครบทุกมิติ” ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่มีความแม่นยำ โดยแสดงผลลัพธ์ในหน้า Dashboard แบบเข้าใจง่าย นำไปใช้วิเคราะห์ต่อยอดกลยุทธ์ให้ธุรกิจได้ทันที

ทำความรู้จัก DOM : Social Listening & Social Analytics Tool จาก InsightEra
📌 https://www.insightera.co.th/dom/

 

✓ The right insight at your fingertips.

—————

“InsightEra” ผู้ให้บริการ MarTech แบบครบวงจร

สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติม
https://www.insightera.co.th/contact-us/
Email : [email protected]